ผมไปเที่ยวมา 2 วัน วันแรกเป็นวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการจัดงาน เมื่อเข้าถึงงานก็ต้องตลึง ไม่นึกไม่ฝันว่า ชุมชนของคนรักเฟิน จะมีพลังขนาดนี้ บรรยากาศสมกับเป็นงานของต้นไม้ประเภทเฟิน มีเฟินและมอส ประดับเต็มไปหมด สวยงามสบายตา และรู้สึกตัวว่ามีความสุข ที่ได้มา มีบรรยากาศคล้ายเดินอยู่ในป่าร้อนชื้น เพราะมีการพ่นละอองน้ำเย็นสบาย ไม่รู้สึกร้อนแต่ประการใด นี่เป็นเคล็ดของการจัดงานที่เดินแล้วไม่เบื่อเพราะร้อน และเมื่อได้สัมผัสกับเจ้าของร้านค้า หรือเจ้าของเฟิน ก็ตอบรับทักทายด้วยอาการยิ้มแย้มแจ่มใส ยังไม่ซื้อก็ไม่ได้ว่าอะไร เดินชม เลือกดู ถ่ายภาพ เฟินแปลก พูดคุยซักถามกับผู้ที่มาร่วมแสดงผลงานการเลี้ยงดูเฟินของตัวเอง เขาก็พุดคุยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จนมีความรู้สึกว่า มางานแสดงนิทรรศการเฟินของบรรดาเหล่าสมาชิกมากกว่าครับ ที่บอกว่าเหมือนการจัดนิทรรศการ น่ะครับ ก็เพราะว่า การจัดนิทรรศการจะเป็นการแสดงความสำเร็จ และนำมาแสดงให้ทุกคนได้ชื่นชมกัน เพราะบางคูหา หรือที่เรียกว่าร้านนะแสดงผลงานการเลี้ยงดูเฟินเป็นอย่างดี สวยงามมาก แต่ไม่สนใจจำหน่าย ยืนคอยตั้งนานก็ไม่มีเจ้าของมาไต่ถามว่าต้องการอะไร ในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่การลงทะเบียนเข้าชมงาน การสอยดาวเฟิน การประมูลเฟิน การประกวดเฟิน ฯลฯ ที่ขาดไม่ได้ก็คือจำหน่ายเฟิน ในราคาที่ไม่แพง ต่อรองได้เหมือนซื้อของทั่ว ๆ ไป วันแรกของการชมเฟินเพลินใจ ของผม เงินหมดกระเป๋า ต้องกลับไปค้นหาเศษเล็กเศษน้อยในรถมาซื้อเพิ่ม คิดว่าปีนี้พอแค่นี้แหละ
พอวันที่ 7 มีนาคม 2553 เป็นวันอาทิตย์ ภาพงานไทเฟิน ยังติดตาอยู่ จึงหาโอกาสในช่วงบ่าย โชคดี มาทันการประกวดเฟิน คิดไม่ผิดเลยครับที่มาอีก ในวันนี้ ภาพเฟินแปลก เฟินสวย หลากหลายชนิด ต่างลงสนามประกวดกันมากมาย บางชนิด มาวันแรก ไม่เห็น ก็เพิ่งมาเห็นวันนี้เอง ละลานตา ตื่นตาตื่นใจครับ คนไม่รักเฟินดูแล้วก็งั้น ๆ แต่สำหรับคนรักเฟินแล้ว มีความรู้สึกว่าไม่ธรรมดา ผู้มาชมงานมาจากต่างที่กัน ก็สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการดูแล การเพาะเลี้ยงเหมือนคุ้ยเคยกันมานาน ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก นี่แหละครับเสน่ห์ของงานไทเฟินเขาละครับ ผมให้สัญญากับตัวเองแล้วว่าปีหน้าจะกลับมางานนี้อีก ติดใจครับ